Systematic Infectious Diseases Genetic Testing
การตรวจการติดเชื้อในระดับดีเอ็นเอ หรือรหัสพันธุกรรม
โรคติดเชื้อสามารถเกิดกับระบบต่าง ๆ ทั่วร่างกายได้ เช่น โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น การวินิจฉัยโรคติดเชื้อจำเป็นต้องถูกต้อง แม่นยำและรวดเร็ว เนื่องจากมีผลต่อการวางแผนการรักษาอย่างมาก

40 Genotyping HPV
คือการทดสอบเพื่อหาชนิดของไวรัส HPV ที่มีทั้งหมด 40 สายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์สามารถทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งชนิดอื่นๆ

Urogenital System
การตรวจการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและสืบพันธุ์

Group B Streptococcus
Group B Streptococcus เป็นแบคทีเรียอยู่ภายในลำไส้ ช่องคลอด หรือทวารหนักของคนปกติ เชื้อ GBS กลับเป็นภัยเงียบที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์

TORCH
การติดเชื้อกลุ่ม TORCH ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือก่อนตั้งครรภ์ สามารถก่อให้เกิดความผิดปกติกับทารกในครรภ์หรือทารกแรกเกิดได้

Respiratory System
การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจอาจเกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรีย การตรวจวินิจฉัยอย่างแม่นยำช่วยให้รักษาได้ตรงจุดและลดการแพร่กระจาย

Digestive System
อาการท้องเสีย ปวดท้อง หรือคลื่นไส้ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในลำไส้ การตรวจช่วยแยกเชื้อและวางแผนการรักษาอย่างตรงจุด
Health Prediction and Assessment Genetic Testing
การตรวจประเมินสุขภาพเฉพาะบุคคลจากรหัสพันธุกรรม
โดยปกติเราจะได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมจากบรรพบุรุษ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถทราบได้เลยว่าบรรพบุรุษของเรามีความเสี่ยงต่อโรคอะไรบ้าง ซึ่งถ้ามีการตรวจยีนและพบความผิดปกติของยีน ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะหาแนวทางแก้ไขได้ เช่น การปรับเปลี่ยนเรื่องโภชนาการและรูปแบบการดำเนินชีวิต การออกกำลังกาย การปรับอารมณ์ และสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น รวมทั้งหาแนวทางการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เป็นการตรวจรหัสพันธุกรรมเฉพาะบุคคล เพื่อค้นหาความผิดปกติบนตำแหน่งของยีน ที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง

การตรวจยีนพัฒนาการเด็ก
ยีนมีบทบาทสำคัญต่อการเรียนรู้ อารมณ์ และการเจริญเติบโตของเด็ก ตรวจยีนเพื่อเข้าใจศักยภาพเฉพาะตัวของลูกคุณ

การตรวจยีนความอ้วน
ยีนความอ้วนมีผลต่อระบบเผาผลาญและการสะสมไขมัน ตรวจยีนเพื่อรู้ว่า… ร่างกายคุณตอบสนองต่ออาหารและการออกกำลังกายแบบไหนดีที่สุด!

การตรวจยีนลักษณะผิวหนัง
รู้จักผิวลึกถึงระดับยีน เพื่อเลือกดูแลได้ตรงจุด ไม่ต้องลองผิดลองถูกอีกต่อไป

การตรวจยีนที่เกี่ยวข้องกับการดูดซึมและการเผาผลาญอาหาร
การตรวจวิเคราะห์ยีนที่เกี่ยวข้องกับการดูดซึมและการเผาผลาญอาหาร ช่วยประเมินศักยภาพของร่างกายในการจัดการสารอาหารแต่ละชนิด เพื่อวางแผนโภชนาการที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล

การตรวจยีนที่เกี่ยวข้องกับลักษณะด้านจิตวิทยาเฉพาะบุคคล
การตรวจยีนด้านจิตวิทยา ช่วยประเมินแนวโน้มทางอารมณ์และลักษณะนิสัยเฉพาะบุคคล เพื่อวางแผนการดูแลและพัฒนาได้อย่างเหมาะสม

การตรวจยีนเพื่อประเมินการใช้กัญชาเฉพาะบุคคล
ยีนมีบทบาทในการกำหนดความไวของร่างกายต่อสารในกัญชา ทั้งด้านการออกฤทธิ์ ผลข้างเคียง และความเสี่ยงต่อปัญหาทางจิตเวช
Systematic Infectious Diseases Genetic Testing
การตรวจการติดเชื้อในระดับดีเอ็นเอ หรือรหัสพันธุกรรม
โรคติดเชื้อสามารถเกิดกับระบบต่าง ๆ ทั่วร่างกายได้ เช่น โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น การวินิจฉัยโรคติดเชื้อจำเป็นต้องถูกต้อง แม่นยำและรวดเร็ว เนื่องจากมีผลต่อการวางแผนการรักษาอย่างมาก
เชื้อ Human papillomavirus (HPV) เป็นสาเหตุหลักสำคัญของการก่อโรคมะเร็งปากมดลูก และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของหญิงไทย เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่มักรู้ตัวและพบแพทย์ในระยะที่ลุกลามแล้วทำให้ได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที
เชื้อ HPV เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
เชื้อ HPV แพร่กระจายได้ง่าย ผ่านการสัมผัสกับเชื้อโดยตรงหรือการมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อ HPV สามารถหายตามธรรมชาติ ภายใน 1-5 ปี สามารถเกิดได้กับทุกเพศและทุกวัย
ตรวจหาเชื้อ HPV ได้ถึง 40 สายพันธ์ุ
โดยจัดแบ่งตามความเสี่ยงเป็น 2 กลุ่ม
ความเสี่ยงสูง (High risk)
- สายพันธ์ุ 16, 18, 26, 31, 32, 33, 34, 35, 39, 45, 51, 52, 53, 54, 55, 56, 57, 58, 59, 62, 66, 68, 69, 73, 82/MM, 82/IS, 84, 89)
- HPV 16, 18 เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากถึง 70 %
ความเสี่ยงต่ำ (Low risk)
- สายพันธ์ุ 6, 11, 40, 42, 43, 44, 61, 70, 71, 72, 81, 83
- HPV 6, 11 พบว่าทำให้เกิดหูดหงอนไก่ ที่บริเวณอวัยวะสืบพันธ์ุ 90 %
การตรวจเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ มักตรวจพบได้ทุกเพศทุกวัย ผู้ที่ควรตรวจคือ วัยรุ่น วัยทำงานที่มีความคึกคะนอง ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน รวมถึงมีรสนิยมเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ หรือขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันตัวเอง
การติดเชื้อเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
การตรวจหา 29 เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินปัสสาวะ สามารถติดต่อผ่านการมีทางเพศสัมพันธ์และสามารถเกิดขึ้นได้จากเชื้อ แบคทีเรีย, เชื้อไวรัส, เชื้อปรสิต และเชื้อรา
เชื้อแบคทีเรีย 19 เชื้อ
- Chlamydia trachomatis
- Ureaplasma urealyticum
- Mycoplasma genitalium
- Mycoplasma hominis
- Neisseria gonorrhoeae
- Treponema pallidum
- Gardnerella vaginalis
- Group B Streptococcus
- Staphylococcus aureus
- Escherichia coli
- Enterobacter cloacae
- Pseudomonas aeruginosa
- Proteus mirabilis
- Haemophilus ducreyi
- Enterococcus faecium
- Klebsiella pneumoniae
- Bacteroides fragilis
- Enterococcus faecalis
- Atopobium vaginae
เชื้อไวรัส 2 เชื้อ
- Herpes simplex virus 1 (HSV-1)
- Herpes simplex virus 2 (HSV-2)
เชื้อปรสิต 1 เชื้อ
- Trichomonas vaginalis
เชื้อรา 7 เชื้อ
- Candida albicans
- Candida glabrata
- Candida krusei
- Candida tropicalis
- Candida parapsilosis
- Aspergillus spp.
- Meyerozyma guilliermondii
Group B Streptococcus เป็นแบคทีเรียอยู่ภายในลำไส้ ช่องคลอด หรือทวารหนักของคนปกติ เชื้อ GBS กลับเป็นภัยเงียบที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
เชื้อ GBS เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
Group B Streptococcus หรือ GBS เกิดขึ้นตามธรรมชาติในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น ลำไส้ ระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ สำหรับผู้ที่สุขภาพแข็งแรง แต่อย่างไรก็ตามเชื้อ GBS กลับเป็นภัยเงียบที่มีความสำคัญ สำหรับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากคุณแม่สามารถส่งผ่านเชื้อ GBS ไปยังลูกได้ ทั้งในขณะที่ตั้งครรภ์ หรือระหว่างการคลอด ซึ่งหากไม่ได้มีการวินิจฉัยหรือการรักษาที่ทันท่วงที อาจส่งผลให้ทารกพิการ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากการติดเชื้อ GBS ที่ได้รับมาจากมารดา
การติดเชื้อกลุ่ม TORCH ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือก่อนตั้งครรภ์ สามารถก่อให้เกิดความผิดปกติกับทารกในครรภ์หรือทารกแรกเกิดได้
อันตรายที่ควรรู้!! จากเชื้อกลุ่ม TORCH ก่อนตั้งครรภ์
การติดเชื้อในหญิงตั้งครรภ์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ morbidity และ mortality ในหญิงตั้งครรภ์สูงขึ้น รวมถึงทารกในครรภ์ด้วย โดยการติดเชื้อที่ส่งผลทั้งมารดาและทารกในครรภ์จะสามารถเกิดการติดเชื้อได้ทั้งในช่วง ระหว่างการตั้งครรภ์ (antepartum) ระหว่างระยะคลอด (intrapartum) และระยะหลังคลอด (postpartum)
รายละเอียดของการติดเชื้อกลุ่ม TORCH
1. Toxoplasmosis
โรคติดเชื้อจากปรสิตที่มีชื่อว่า Toxoplasma gondii โดยเชื้อจะสามารถพบได้ในมูลของแมว เนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงสุกๆ ดิบๆ แม้ปกติมักจะไม่ก่อให้เกิดอาการใดๆ แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคล้ายไข้หวัด และเชื้อยังสามารถแพร่จากแม่สู่ทารกในครรภ์ได้ ผู้ที่ได้รับเชื้อในช่วงแรกของการตั้งครรภ์อาจถ่ายทอดเชื้อไปยังทารกได้น้อย แต่ในบางรายที่รุนแรงมักส่งผลให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์หรือเกิดการแท้งบุตร สำหรับทารกที่รอดชีวิตมีแนวโน้มจะพบปัญหาสุขภาพรุนแรงตามมา เช่น ชัก ตับโต ม้ามโต ดีซ่าน หรือติดเชื้อที่ดวงตาจนตาบอดได้ ทั้งนี้ ผู้ที่ติดเชื้อนี้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์อาจเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อสู่ทารกได้มากที่สุด แต่มักพบอาการผิดปกติได้น้อย และเด็กอาจพัฒนาอาการได้เมื่อโตขึ้น
2. Rubella
เชื้อไวรัส Rubella เป็นสาเหตุของโรคหัดเยอรมัน โรคนี้จะติดต่อถึงกันได้ทางการหายใจ โดยเชื้อในละอองน้ำมูกและน้ำลายของผู้ป่วยในอากาศ ถ่ายทอดไปยังผู้ที่อยู่ใกล้ๆ ในมารดาจะไม่มีอันตรายจากโรคหัดเยอรมัน แต่ทารกในครรภ์ที่มารดาติดเชื้อโรคหัดเยอรมันอาจจะเกิดความผิดปกติได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุครรภ์เมื่อติดเชื้อ ถ้าอยู่ในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ จะพบความพิการที่เห็นได้ชัดคือ ตาเป็นต้อกระจกหรือต้อหิน หูหนวก หัวใจพิการแต่กำเนิด เด็กตัวเล็กกว่าปกติ เกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติทำให้เกิดจ้ำเลือดตามผิวหนัง ตับ ม้ามโต และมีความผิดปกติทางสมอง หรือทารกในครรภ์เสียชีวิตเพราะติดเชื้อ
3. Cytomegalovirus
ไซโตเมกาโลไวรัส หรือ CMV เป็นไวรัสชนิด DNA ทำให้ผู้ที่ได้รับเชื้อมีอาการปวดกล้ามเนื้อ มีไข้สูง เหนื่อยล้า หรือปอดบวม แต่สำหรับคนที่มีสุขภาพที่แข็งแรงอาการอาจจะไม่รุนแรงมาก แต่ถ้าหากเกิดกับทารกหรือคนที่ภูมิต่ำจะมีอาการที่รุนแรงสูง เชื้อ CMV เป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียการได้ยินของทารกแรกเกิด เมื่อหญิงตั้งครรภ์ติดครั้งแรก เชื้อจะไม่แสดงอาการผ่านร่างกายแต่สามารถถูกกระตุ้นให้กระจายเป็นระยะๆ คล้ายเชื้อไวรัสกลุ่มเริม เกิดจากระดับ IgG antibody อยู่ในระดับสูง
4. Herpes simplex virus l/ll
โรคเริม เกิดจากการติดเชื้อ Herpes simplex virus ซึ่งมี 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดที่ 1 มักทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณปาก หรือลำตัวเหนือสะดือ และ ชนิดที่ 2 มักทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ภายนอก โดยที่ เชื้อ herpes simplex virus ชนิดที่ 1 จะมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อทางเพศสัมพันธุ์น้อยกว่าชนิดที่ 2 รวมทั้งในผู้ป่วยใหม่ที่มีการติดเชื้อ herpes simplex virus มักเกิดจากเชื้อชนิดที่ 1 มากกว่าด้วย
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา ที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ ที่สามารถติดต่อได้จากการไอ จาม หรือหายใจรดกัน เชื้อโรคสามารถปนเปื้อนมากับละอองของเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย หรือลอยอยู่ในอากาศ หรืออาจติดต่อจากการสัมผัสกับผู้ป่วยหรือเครื่องใช้ส่วนตัวของผู้ป่วยได้
อาการที่อาจก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจโดยรวม
- มีอาการไข้สูง หายใจหอบ เหนื่อย
- เจ็บคอ หรือมีน้ำมูกสีเขียวเหลืองร่วมกับมีไข้สูงตั้งแต่ 38.5 องศา ขึ้นไป
- มีอาการปวดบริเวณโพรงจมูก
- ปฏิเสธไม่ยอมกินอาหารและน้ำ
- อาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์
การตรวจหา 72 เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ สามารถเกิดขึ้นได้จากเชื้อ แบคทีเรีย, เชื้อไวรัส, เชื้อรา
เชื้อแบคทีเรีย 32 เชื้อ
- Corynebacterium diphtheriae
- Chlamydia pneumoniae
- Chlamydia psittaci
- Moraxella catarrhalis
- Nocardia otitidiscaviarum
- Nocardia asteroides
- Nocardia brasiliensis
- Stenotrophomonas maltophilia
- Klebsiella aerogenes
- Klebsiella oxytoca
- Klebsiella pneumoniae
- Burkholderia cepacia
- Salmonella typhi
- Enterococcus faecalis
- Enterococcus faecium
- Enterobacter cloacae
- Ureaplasma urealyticum
- Acinetobacter baumannii
- Staphylococcus aureus
- Haemophilus influenzae
- Pseudomonas aeruginosa
- Mycobacterium tuberculosis
- Legionella pneumophila
- Escherichia coli
- Mycoplasma pneumoniae
- Neisseria meningitidis
- Bordetella pertussis
- Streptococcus pneumoniae
- Streptococcus angina
- Group A streptococcus
- Group B streptococcus
- Brucella spp.
เชื้อไวรัส 36 เชื้อ
- Human parvovirus B19
- Measles virus
- Enterovirus
- Enterovirus A71
- Enterovirus D68
- Coxsackievirus 16
- Coxsackievirus 4
- Coxsackievirus 6
- Coxsackievirus 10
- WU Polyomavirus
- KI Polyomavirus
- Herpes simplex virus 1
- Human alphaherpesvirus 3
- Human betaherpesvirus
- Human herpesviruses
- Dengue virus
- Rubella virus
- Influenza B virus
- Human adenovirus B
- Human adenovirus C
- Human adenovirus D
- Influenza A virus H1N1 subtype
- Influenza A virus universal
- Influenza A virus H1N2 subtype
- Influenza A virus H3N2 subtype
- Parainfluenza virus (type 1,2,3,4)
- Respiratory syncytial virus type A
- Respiratory syncytial virus type B
- Epstein-barr virus
- Rhinovirus (HRV-A, HRV-B)
- Rotavirus (Group A and Group B)
- Human Metapneumovirus
- Human cytomegalovirus
- Human bocavirus
- Corona Virus
- Corona Virus N2
เชื้อรา 4 เชื้อ
- Cryptococcus neoformans
- Aspergillus fumigatus
- Candida albicans
- Pneumocystis jirovecii
การติดเชื้อของอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากแบคทีเรียรองลงมาคือเชื้อไวรัส ปรสิต และเชื้อรา ที่อาจเกิดจากการบริโภคอาหารและน้ำดื่มที่ไม่สะอาด โดยเชื้อโรคที่อยู่ในตัวผู้ป่วยปนเปื้อนอยู่ในน้ำ อาหาร และมือ เข้าสู่ปาก โดยเชื้ออาจติดมากับภาชนะที่ปนเปื้อน
อาการที่อาจก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหารโดยรวม
- มีอาการปวดท้องเรื้อรังแบบเป็นๆ หายๆ
- ปวดตลอดเวลา หรือปวดเป็นบางครั้ง
- ถ่ายเป็นสีเทา หรือซีดๆ อาจมีไขมันออกด้วย น้ำหนักตัวลดลง เป็นต้น
- อุจจาระเป็นเลือด
- เบื่ออาหาร ตัวเหลือง หรือไม่มีอาการเลยก็ได้
การตรวจหา 25 เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร สามารถเกิดขึ้นได้จากเชื้อ แบคทีเรีย, เชื้อไวรัส, เชื้อรา
เชื้อแบคทีเรีย 14 เชื้อ
- Campylobacter jejuni
- Clostridium difficile
- Escherichia coli
- Enteropathogenic Escherichia coli
- Escherichia coli O157
- Helicobacter pylori CagA
- Helicobacter pylori UreA
- Listeria monocytogenes
- Pseudomonas aeruginosa
- Salmonella spp.
- Shigella flexneri
- Vibrio parahaemolyticus
- Staphylococcus aureus
- Yersinia enterocolitica
เชื้อไวรัส 10 เชื้อ
- Coxsackievirus 16
- Enterovirus
- Enterovirus 71
- Enteric Adenovirus
- Astrovirus
- Norovirus 1
- Norovirus 2
- Rotavirus A
- Rotavirus B
- Sapovirus
เชื้อรา 1 เชื้อ
- Candida albicans
ไวรัสโคโรนาเป็นสาเหตุของโรคทั้งในสัตว์และคน มีไวรัสโคโรนาหลากหลายสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่โรคหวัดธรรมดาไปจนถึงโรคที่มีอาการรุนแรง เช่น โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS), โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง (SARS) รวมถึงไวรัสโคโรนาที่ค้นพบล่าสุดซึ่งทำให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 (COVID-19)
อาการที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ COVID-19
อาการสีเขียว (อาการเบื้องต้นของผู้ติดเชื้อ)
- ไม่มีอาการ
- มีไข้/วัดอุณหภูมิได้ 37.5 C ขึ้นไป
- ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ
- ถ่ายเหลว
- จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
- ตาแดง มีผื่น
- ไม่มีโรคประจำตัวร่วม
- หายใจปกติ ปอดไม่อักเสบ
- ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง / โรคร่วมสำคัญ
อาการสีเหลือง (เริ่มมีอาการเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง)
- แน่นหน้าอก
- หายใจไม่ค่อยสะดวก
- หายใจเร็ว หายใจลำบาก ไอแล้วรู้สึกเหนื่อย
- อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ
- ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้ง/วัน
- ปอดอักเสบ
- หน้ามืด วิงเวียน
อาการสีแดง (ผู้ป่วยอาการหนัก)
- หอบเหนื่อย พูดไม่เป็นประโยค
- แน่นหน้าอกตลอดเวลา หายใจแล้วเจ็บหน้าอก
- ซึม เรียกไม่รู้สึกตัว ตอบสนองช้า
- ปอดบวมขั้นรุนแรง โดยมีอาการปอดบวม Hypoxic(resting O2 saturation <96 %) หรือมีภาวะลดลงของออกซิเจน SpO2 >= 3% ของค่าที่วัดได้ครั้งแรกขณะออกแรง (exerciscinduced – hypoxemia) หรือภาพรังสีทรวงอกมี progression ของ pulmonary infiltrates (ให้เข้าใจง่ายคือลองใช้เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ถ้าต่ำคืออาการน่าเป็นห่วง)
Health Prediction and Assessment Genetic Testing
การตรวจประเมินสุขภาพเฉพาะบุคคลจากรหัสพันธุกรรม
โดยปกติเราจะได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมจากบรรพบุรุษ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถทราบได้เลยว่าบรรพบุรุษของเรามีความเสี่ยงต่อโรคอะไรบ้าง ซึ่งถ้ามีการตรวจยีนและพบความผิดปกติของยีน ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะหาแนวทางแก้ไขได้ เช่น การปรับเปลี่ยนเรื่องโภชนาการและรูปแบบการดำเนินชีวิต การออกกำลังกาย การปรับอารมณ์ และสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น รวมทั้งหาแนวทางการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
เป็นการตรวจรหัสพันธุกรรมเฉพาะบุคคล เพื่อค้นหาความผิดปกติบนตำแหน่งของยีน ที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง
เป็นการทดสอบ DNA เพื่อวิเคราะห์ความถนัดที่อาจจะมีการกำหนดมาจากพันธุกรรม อธิบายว่า การตรวจนี้จะช่วยให้เราค้นพบศักยภาพของตัวเราได้เร็วขึ้น โดยอาศัยข้อมูลทางพันธุกรรมเป็นหลัก Talent Genetic Test เป็นเครื่องมือช่วยค้นหาความถนัด แต่ไม่ใช่ตัวกำหนดอนาคต เราสามารถใช้ผลการตรวจประกอบกับการเรียนรู้และฝึกฝนตัวเอง เพื่อต่อยอดศักยภาพที่มีอยู่
WE PROVIDE BEST
SERVICES FOR YOU
Bring to the table win-win survival strategies to ensure proactive domination. At the end of the day, going forward, a new normal that has evolved from generation.
ติดต่อเรา